9 วิธีไล่มดด้วยอบเชย และ วิธีไล่มดแบบธรรมชาติ ง่ายจนคาดไม่ถึง
เจ้ามดตัวเล็กที่เข้ามาอยู่ตามบ้านของเรา มันสร้างปัญหาแต่ละครั้งนี่ไม่เล็กเลย บางทีมันก็ขึ้นมาตอมอาหาร ขนม ของเราจนต้องทิ้งไป แอบเข้าไปกินน้ำตาล ข้าวสาร เจาะถุงขนม หรือกัดเราจนเจ็บและคันเลยก็มี คงจะเห็นกันแล้วว่าเราไม่ควรปล่อยให้มีมดอยู่ในบ้าน ควรจะไล่หรือกำจัดมดในบ้านให้หมดไปมากที่สุด และบทความนี้เราก็มีวิธีไล่มดด้วยอบเชยมาแนะนำกันอีกแล้ว เป็นวิธีไล่มดที่ทำได้ง่ายมากเลยหล่ะ และยังมีวิธีกำจัดหมดแบบธรรมชาติอีกหลายวิธีเลย นับว่าเป็นอีกหนึ่งความรู้ที่มีประโยชน์ต่อชีวิตประจำวันเป็นอย่างมากเลยหล่ะค่ะ
เพื่อนๆ อาจสงสัยว่าอบเชยเนี่ยมันมีขายที่ไหน เราจะบอกพิกัดให้ว่ามันมีขายที่แม็คโคร โลตัส ท็อปส์ หรือตามตลาดก็มีค่ะ มีทั้งแบบแท่งและแบบผง เป็นเครื่องเทศอีกอย่างหนึ่งที่มีกลิ่นหอม โดยอบเชยที่เราเห็นขายกันทั่วไปนี้ก็คือเปลือกไม้ชั้นในที่แห้งแล้วของต้นอบเชยนั่นเอง ส่วนมากเราจะเห็นเค้าเอาอบเชยมาทำเป็นเครื่องแกง หรือใช้เป็นยาแผนโบราณแก้จุกเสียดแน่นท้อง แต่เราจะเอาอบเชยมาไล่มดได้อย่างไร มาดูวิธีทำกันเลย
วิธีไล่มดแบบธรรมชาติ
วิธีไล่มดในน้ำตาลด้วยอบเชย
หากคุณพบว่าภาชนะใส่น้ำตาลที่คุณเอาไว้ชงกาแฟ หรือเอาเก็บไว้ในครัวเพื่อปรุงรสชาติอาหาร เกิดมีมดมารบกวน ให้เอาอบเชยมา 1-2 แท่งใส่ลงไปในภาชนะนั้น ก็จะไม่มีมดมารบกวนอีกต่อไป และยังช่วยให้น้ำตาลของเรามีกลิ่นหอมอีกด้วย เวลาเอาชงกาแฟหรือเครื่องดื่มอุ่นๆ จะมีกลิ่นหอมน่าอร่อยมากยิ่งขึ้น
โรยผงอบเชย
ตามขอบประตูมักจะเป็นจุดที่มดใช้เป็นเส้นทางเข้ามาในบ้าน ถ้าเราสังเกตเห็นว่ามีมดเดินกันเป็นแถว ให้เอาผงอบเชยมาโรยลงไปขวางเส้นทางที่มดเดิน และโรยลงใส่ฝูงมดที่เดินกันเป็นแถวด้วย ก็จะช่วยไล่มดไม่ให้เข้าบ้านได้
ขีดเส้นป้องกันมด
เราจะมาสร้างเส้นเพื่อป้องกันมดกันค่ะ อารมณ์เดียวกับการขีดเส้นยันต์ป้องกันผีเลย ฮ่า ฮ่า!! โดยเอาคอตตอนบัดมาจุ่มลงไปในผงอบเชย จากนั้นก็เอามาขีดๆ เป็นเส้นกันรอบๆ บริเวณที่เราไม่อยากให้มดเข้ามาได้ หรือถ้าพื้นที่กว้าง ก็หาเศษผ้าขนหนูมาชุบผงอบเชย แล้วเอามาเช็ดพื้นรอบพื้นที่ที่ต้องการ เป็นการตีกรอบป้องกันไม่ให้มดข้ามมาค่ะ
ใช้น้ำมันหอมระเหยอบเชย
สำหรับวิธีไล่มดโดยใช้น้ำมันหอมระเหยอบเชย ให้เพื่อนๆ เอาน้ำมันหอมระเหยอบเชยมาหยดใส่ผ้า แล้วเอาเช็ดตามบริเวณที่มีมดมารบกวน หรืออีกวิธีคือเอาน้ำเปล่า วอดก้า มาใส่กระบอกฉีด และหยดน้ำมันหอมระเหยอบเชยลงไปประมาณ 20 หยด แล้วปิดฝาเขย่าให้เข้ากัน จากนั้นก็เอามาฉีดพ่นตามพื้น ใต้โต๊ะอาหาร หรือบริเวณที่พบเจอมดบ่อยๆ ก็สามารถช่วยไล่มดได้เช่นกันค่ะ
วางแท่งอบเชยขวางทางมด
วิธีนี้ทำได้ง่ายไม่ซับซ้อนอะไรเลย เพียงแค่เอาแท่งเปลือกอบเชยมาวางไว้ตามทางเดินมด หรือบริเวณที่เราพบเห็นมดมาบ่อยๆ วิธีนี้ก็จะช่วยป้องกันมดไม่ให้มาแถวนั้นได้ เป็นวิธีไล่มดด้วยอบเชยที่ง่ายสุดๆ เลยหล่ะ
วิธีไล่มดออกจากข้าวสาร
หากข้าวสารที่บ้านมีมดมารบกวน ให้คุณเอาใบมะกรูดกับพริกแห้งมาฉีกแล้วใส่ลงไปในถังข้าวสาร เพียงเท่านี้ก็จะช่วยไล่มดที่เข้ามาในข้าวสารได้ และช่วยป้องกันไม่ให้มดเข้ามาในข้าวสารของเราอีก เพราะสรรพคุณความเผ็ดร้อนของพริกและกลิ่นที่ค่อนข้างฉุนของใบมะกรูดนั่นเอง วิธีนี้แม่ของผู้เขียนทำเป็นประจำเมื่อเอาข้าวมาเทใส่ถังเก็บไว้ ก็ช่วยป้องกันมดได้เป็นอย่างดีค่ะ
ไล่มดในข้าวสารด้วยแดด
ถ้าข้าวสารของคุณมีมดขึ้น มีวิธีที่ง่ายมากที่จะไล่มด นั่นคือเอาข้าวสารเทใส่ถาดแล้วเอาไปวางตากแดดร้อนๆ เกลี่ยข้าวสารเพื่อให้ความร้อนจากแดดกระจายลงไปอย่างทั่วถึง เมื่อความร้อนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มดก็จะพากันไต่หนีออกจากข้าวสารไปจนหมด เป็นวิธีที่ทำได้ง่ายสุดๆ ในวันที่แดดจัดจ้าน
ใช้น้ำส้มสายชูไล่มด
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีไล่มดที่ทำได้ง่ายมาก เพียงแค่เอาน้ำส้มสายชูกับน้ำเปล่ามาผสมกันในอัตราส่วน 1:1 จากนั้นเอาใส่กระบอกฉีดแล้วเอาฉีดพ่นตามบริเวณที่มีมด ตามทางเดินมด และจุดที่มดจะไต่ขึ้นมาบนบ้าน ก็จะช่วยไล่มดได้แบบง่ายๆ
ใช้พริกแห้งกับน้ำสบู่
พริกแห้งที่เราใช้ปรุงรสชาติอาหาร สามารถใช้ทำเป็นน้ำยาไล่มดได้ โดยเอาพริกแห้งมา 1 ขีด เอาใส่เครื่องปั่นให้ละเอียด จากนั้นเอามาผสมกับน้ำเปล่า 1 ลิตร แล้วหมักทิ้งไว้ 1 คืน ตื่นเช้ามาเราก็กรองเอาแต่น้ำ เราก็จะได้น้ำหมักพริกเผ็ดเข้มข้นแล้วหล่ะ เอาน้ำหมักพริกมา 1 ส่วน ผสมกับน้ำสบู่ 5 ส่วน เอาใส่ในขวดสเปรย์แล้วเขย่าให้เข้ากัน แล้วเอาฉีดพ่นลงใส่ฝูงมด ทางเดินมด และเอาราดลงใส่รังหรือรูมดด้วยก็ได้ เป็นอีกหนึ่งวิธีไล่มดที่ได้ผลดีเหมือนกันค่ะ
เพื่อนๆ ที่ได้อ่านกันจบแล้วก็ลองเอาวิธีไล่มดด้วยอบเชยและวิธีไล่มดแบบธรรมชาติเหล่านี้ไปใช้กันดูนะคะ เพื่อให้บ้านของเราปลอดภัยจากมดมารบกวน ข้าวของ อาหารต่างๆ ที่เราเก็บไว้ก็จะไม่เสียหาย และก็อย่าลืมรักษาความสะอาดบริเวณบ้านของเราอย่างสม่ำเสมอด้วยหล่ะ เศษอาหาร น้ำหวาน น้ำตาล ขนมต่างๆ หากทำตกพื้นก็เก็บกวาดให้เรียบร้อย แล้วมดตัวน้อยก็จะไม่ใช่ตัวสร้างปัญหาน่าปวดหัวให้กับบ้านของเราอีกแล้วจ้า
ขอบคุณที่มา : tipsza.com