ไฟเตือนน้ำมันเชื้อเพลิง
ไฟเตือนน้ำมันเชื้อเพลง คืออะไร
หากมีไฟน้ำมันเตือนที่เป็นรูปปั๊มน้ำมันสีเหลืองโชว์ขึ้น ถือเป็นการบอกให้ผู้ใช้รถเริ่มเตรียมตัวที่จะต้องเติมน้ำมัน ซึ่งรถของคุณยังคงสามารถขับต่อไปได้อีกระยะ แต่จะไม่มีทางทราบเลยว่ามีน้ำมันเหลืออยู่ในถังเท่าไหร่ เพราะขึ้นอยู่กับข้อจำกัดของรถแต่ละคัน
การปล่อยให้น้ำมันเกลี้ยงถังจนไฟเตือนน้ำมันโชว์บนหน้าจอบ่อยๆ นอกจากจะเสี่ยงน้ำมันหมดกลางทางได้แล้วนั้น ยังเสี่ยงทำ “ปั๊มติ๊ก” พังได้อีกต่างหากนะรู้ยัง
“ปั๊มติ๊ก” คืออะไร?
ภายในถังน้ำมันเชื้อเพลิงของรถทุกคันจะมีชิ้นส่วนที่เรียกว่า “ปั๊มเชื้อเพลิง” หรือ Fuel Pump ซึ่งภาษาช่างส่วนใหญ่มักเรียกกันว่า “ปั๊มติ๊ก” โดยมีหน้าที่ดูดน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อส่งไปยังเครื่องยนต์สำหรับใช้ในการเผาไหม้ ทำให้เครื่องยนต์สตาร์ทติดและขับเคลื่อนไปได้
เจ้าปั๊มติ๊กที่ว่านี้จำเป็นต้องมีการหล่อลื่นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งน้ำมันเชื้อเพลิงที่อยู่ในถังไม่ว่าจะเป็นเบนซินหรือดีเซล จะเป็นตัวหลักในการหล่อลื่นปั๊มติ๊ก ช่วยให้ปั๊มติ๊กไม่ร้อนจนน็อกดับไป ดังนั้นถ้าผู้ขับขี่ปล่อยให้น้ำมันเกลี้ยงถังบ่อยๆ จนเห็นไฟเตือนบนหน้าปัดเป็นเรื่องปกตินั้น อาจส่งผลให้ปั๊มติ๊กทำงานหนักมากยิ่งขึ้น บ่อยเข้าก็จะเกิดความร้อนสูงจนกระทั่งหยุดทำงานในที่สุด
ผลจากการที่ปั๊มติ๊กไม่ทำงานก็จะทำให้เครื่องยนต์ดับ สตาร์ทไม่ติด ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้แม้ว่ารถกำลังเคลื่อนที่อยู่ก็ตาม ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง เพราะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
ดังนั้น เพื่อเป็นการถนอมปั๊มติ๊ก ไม่ควรปล่อยให้น้ำมันในถังเหลือต่ำกว่า 1 ใน 4 บ่อยครั้ง และไม่ปล่อยให้น้ำมันพร่องจนกระทั่งไฟโชว์ หากเป็นรถติดตั้งระบบ LPG หรือ NGV ก็ควรสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยน้ำมันเป็นประจำ หรือสลับมาเป็นน้ำมันทุกครั้งที่ขับรถ เพื่อให้ระบบฉีดจ่ายน้ำมันยังคงทำงานได้อย่างสมบูรณ์
ซ่อม “ปั๊มติ๊ก” แพงไหม?
หากจำเป็นต้องเปลี่ยนปั๊มติ๊กแล้วล่ะก็ จะมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ไม่ถึงพันบาท ไปจนถึง 5-6 พันบาท ขึ้นอยู่กับอะไหล่ที่ใช้และรถแต่ละรุ่นด้วย หากอู่มีอะไหล่พร้อมก็มักใช้เวลาเปลี่ยนประมาณ 1 ชั่วโมง แต่นั่นไม่รวมถึงการต้องนำรถขึ้นสไลด์เพื่อยกเข้าอู่ หรือการเรียกช่างมาซ่อมถึงบ้าน ซึ่งโดยรวมแล้วอาจต้องเสียเวลาทั้งวันก็เป็นได้