ประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของ “เมืองเชียงคาน” เมืองเก่าที่ได้ถักทอวิถีชีวิตจากรุ่นสู่รุ่นจวบจนถึงปัจจุบัน วิถีเหล่านั้นยังคงแทรกซ่อนตัวอยู่ในโลกของชาวบ้าน ชุมชนเมือง โดยเฉพาะในบ้านหลังเก่าๆ ที่เรียงรายกันอยู่ประปราย พอให้ได้เล็งเห็นว่า เมืองเชียงคานยังคงเสน่ห์ของความเก่าแก่เอาไว้ได้
แม้บางส่วนจะถูกกลืนกินด้วยโลกสมัยใหม่ ทว่ามันก็ยังคงเอาไว้ด้วยชีวิตอันเรียบง่ายของผู้คน ดูเงียบสงบและเต็มไปด้วยความสุขใจที่หาได้ยากในชุมชนเมือง เมื่อเราได้ลองย่างเท้าเข้ามาในดินแดนแห่งนี้ ราวกับเวลาที่เดินอย่างรวดเร็วในเมืองหลวงถูกเพิ่มมากขึ้น ทุกอย่างดูเชื่องช้าลงเป็นชีวิตแบบ slow life ที่หลายคนพยายามค้นหามาเนิ่นนาน…เรามีเวลามากขึ้นกับความสุขและการนั่งพักชื่นชมกับชีวิตรอบข้างได้มากขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ
ชุมชนวิถีริมฝั่งโขง…เข็มนาฬิกากับเวลาในใจคน
เชียงคานเป็นอำเภอขนาดเล็กกระทัดรัด เหมาะสำหรับการใช้ชีวิตแบบเบาๆ ของชาวบ้าน เป็นส่วนหนึ่งที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเลย เสน่ห์ของที่นี่คือวิถีชีวิตผู้คนที่สัมพันธ์กับลุ่มน้ำโขงอันเปรียบเสมือนลมหายใจที่หล่อเลี้ยงปากท้องชาวบ้านมาเนิ่นนาน อีกทั้งวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ให้บรรยากาศโรแมนติกในยามรุ่งสางและช่วงพลบค่ำ ฝั่งโขงดูเงียบงัน และยังเห็นถึงการเคลื่อนไหว สายน้ำที่ทอดตัวยาวอย่างยิ่งใหญ่ เลื่อนไหลไปอย่างช้าๆ ความเงียบในช่วงเช้ากับเสียงสายน้ำที่ซัดสาดอยู่ตามชายฝั่ง
หรือแม้กระทั่งเสียงเหล่านกที่เริ่มตื่นจากการหลับใหลปลุกให้หัวใจของนักเดินทางพองโต เสียงบรรเลงทุกอย่างที่ดังก้องสอดประสานรับเป็นหนึ่งเดียวกัน เสียงบรรเลงเพลงจากธรรมชาติ…เงียบงันและบางเบา ลึกซึ้งไปถึงจิตวิญญาณเบื้องลึก เวลาที่เคลื่อนผ่านเราแทบลืมเลือนมันไปสิ้น ราวกับเวลานั้นเป็นห้วงแห่งการบรรลุ นิยามของ “ความสุข” อยู่ตรงหน้านี้นี่เอง เข็มนาฬิกาที่เคลื่อนผ่านไปไม่มีความหมายใดๆ อีกเลย
มนต์เสน่ห์ที่ไม่เคยจาง
สิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาสัมผัสกับความเรียบง่ายที่ดูออกจะไม่ค่อยมีความสะดวกสบายดังเช่นในเมืองหลวงเช่นนี้ อาจจะเป็นเพราะสิ่งที่เราโหยหาอยู่ในความรู้สึกลึกๆ ข้างในคือการได้ออกมาจากความวุ่นวายที่ต้องเผชิญอยู่ในทุกวี่วัน เชียงคานเต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเงียบสงบ แผ่ซ่านอยู่ในทุกห้วงอากาศอย่างที่เราจะสัมผัสได้ ความว้าวุ่นในใจถูกปลดปล่อยและเยียวยาด้วยความรู้สึกที่บางเบา
ในอดีตที่นี่เคยตั้งอยู่ที่เมืองชะนะคามของประเทศลาว ในยุคสมัยของอาณาจักรล้านช้าง ก่อนการรบเพื่อแย่งชิงแผ่นดินมายาวนาน ในที่สุดดินแดนแห่งนี้ก็ได้ตกเป็นของไทยมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งนอกจากบรรยากาศดีๆ ริมฝั่งโขงที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปสัมผัสบรรยากาศเย็นๆ โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว ที่นี่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีสถานที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น วัดท่าแขก เป็นวัดโบราณที่มีความเก่าแก่ ตั้งตระหง่านอย่างสวยงามเป็นหนึ่งเดียวกับริมฝั่งแม่น้ำโขง และวัดศรีบุญเมือง ชื่อคุ้นหูของชาวบ้านและนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ ตั้งอยู่ใกล้กับตลาดเชียงคาน โอบล้อมอยู่ด้วยงานศิลปะโบราณ บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ด้วยกลิ่นอายแบบล้านนาและล้านช้าง ให้ความรู้สึกเงียบสงบและสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์เมื่อเดินเข้าไปในเขตแดนของตัววัด
ที่นี่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวแบบธรรมชาติอย่างแก่งคุดคู้และจุดชมวิวภูทอกให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสบรรยากาศอันสวยงาม วิวทิวทัศน์สีเขียว และม่านหมอกที่ลอยล่องอย่างเงียบเชียบเช่นเดียวกับกลิ่นอายของเมืองที่เคลื่อนไหวไปอย่างช้าๆ โดยมีความสุขเป็นตัวหลักที่ช่วยขับเคลื่อนชีวิตผู้คนไม่ให้หลงใหลไปกับแสงสีของโลกสมัยใหม่
เมืองเล็กๆ แห่งนี้จึงเป็นสถานที่แห่งการพักผ่อนหย่อนใจ ใครอยากสัมผัสความสุขแบบช้าๆ ชีวิตที่ไม่ต้องตื่นมาพร้อมความเร่งรีบ ลองมาเปิดประสบการณ์ไปกับความสมดุลแห่งชีวิตที่อาจจะเปลี่ยนมุมมองความคิดของเราไปอย่างสิ้นเชิงเลยก็เป็นได้
ภาพจาก siamfishing.com