เข้าถึงฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ และการได้หลบลมร้อนอยู่ในห้องแอร์เย็นๆ จึงเป็นเรื่องปกติ เพราะแดดช่วงนี้ร้อนแรงสุดๆ มาพร้อมกับรังสียูวี และอากาศอบอ้าวที่อยู่ทั่วทุกที่ หลายคนคงกำลังมองหาวิธีประหยัดไฟในช่วงที่ค่า ft ขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้
เคล็ดลับเปิดแอร์ให้ประหยัด ไม่เปลืองค่าไฟ เย็นสบายทั้งครอบครัว
1. ล้างแอร์อย่างสม่ำเสมอ
การใช้งานแอร์มากกว่า 4 เดือนโดยไม่ผ่านการทำความสะอาดหรือล้างแอร์ มักเป็นสาเหตุทำให้ฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกเข้าไปสะสมในแอร์มากขึ้นเรื่อย ๆ เรื่องนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้แอร์ไม่เย็นออกแต่ลมเท่านั้น แต่ยังทำให้แอร์ทำงานหนักจนกินค่าไฟเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว โดยวิธีการแก้ไขง่าย ๆ คือให้ถอดแผ่นกรองหยาบออกมาทำความละเอียดอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง หรือเรียกใช้บริการช่างแอร์ เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่เปลืองค่าไฟแล้ว
2. เปิดประตู – หน้าต่างให้อากาศถ่ายเทก่อนเปิดแอร์
ก่อนเปิดแอร์ทุกครั้งให้เปิดประตู – หน้าต่างเพื่อให้อากาศเก่า ๆ ภายในห้องถูกถ่ายเทออกไปด้านนอก วิธีนี้นอกจากจะช่วยลดกลิ่นอับได้แล้ว ยังช่วยระบายความร้อนที่สะสมอยู่ในห้องได้เป็นอย่างดี เมื่อถ่ายเทอากาศได้ที่แล้วให้ปิดประตู – หน้าต่างให้สนิททันที จากนั้นกดเปิดแอร์ให้ทำงานตามปกติ วิธีนี้จะช่วยให้แอร์ปรับอุณหภูมิภายในห้องได้อย่างรวดเร็วแบบไม่เปลืองไฟ
3. เปิดพัดลมพร้อมกับเปิดแอร์
เปิดพัดลมพร้อมแอร์ดีไหม? คำตอบคือ “ดี” โดยเฉพาะการเปิดแอร์อุณหภูมิ 27 องศาเซลเซียสที่เพียงพอต่อการลดความชื้นในห้อง พร้อมเปิดพัดลมตั้งพื้นให้เป่ามาที่ตัว นอกจากจะช่วยให้รู้สึกสบายขึ้นแล้ว การเปิดแอร์พร้อมเปิดพัดลมยังช่วยให้เย็นฉ่ำแบบประหยัดไฟ มากกว่าการตั้งแอร์อุณหภูมิต่ำ 23 – 24 องศาเซลเซียสอีกด้วย
4. หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าขณะเปิดแอร์
เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทให้ความร้อน เช่น เตารีด ไมโครเวฟ เตาไฟฟ้า กาต้มน้ำร้อน ฯลฯ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ทำความร้อนระหว่างเปิดแอร์ หากทำได้จะช่วยให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดไฟ
5. ไม่เปิดแอร์ในพื้นที่เปิด
พื้นที่เปิดโล่งอย่างทางขึ้นบันได หรือทางเดินระหว่างห้องที่ไม่มีประตูกั้น ถือเป็นพื้นที่ที่ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานแอร์เท่าไหร่ เพราะนอกจากแอร์จะส่งความเย็นไม่ถึงแล้ว ยังทำงานหนัก และสิ้นเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ ทั้งยังเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แอร์กินไฟจนค่าไฟเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังนั้นหากจำเป็นต้องติดแอร์บริเวณดังกล่าวจริง ๆ แนะนำว่าควรเลือก BTU แอร์ให้เหมาะสมกับขนาดห้อง
6. ไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์อุณหภูมิ 25 องศาเสมอไป
หลายคนเข้าใจผิดว่าอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส จะช่วยให้ประหยัดไฟ แต่จริง ๆ แล้วอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส เป็นเพียงอุณหภูมิที่ทำให้ร่างกายรู้สึกสบายเท่านั้น ดังนั้นให้คุณลองปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้นสักเล็กน้อยประมาณ 26 – 28 องศาเซลเซียส หากยังรู้สึกว่าสบายตัวอยู่ ไม่ร้อนมากจนเกินไป สามารถปรับไปใช้อุณหภูมินั้น ๆ แทนได้ เพราะยิ่งแอร์ถูกตั้งอุณหภูมิให้สูงเท่าไหร่ก็ยังช่วยให้แอร์กินไฟน้อยลง
7. หลีกเลี่ยงการเพิ่มความชื้นในห้อง
นอกจากความร้อนที่ทำให้แอร์ทำงานหนักแล้ว ความชื้นต่าง ๆ เช่น ต้นไม้ภายในห้อง เครื่องทำความชื้น ภาชนะใส่น้ำต่าง ๆ หรือแม้แต่เสื้อผ้าที่เปียกชื้น มักเป็นตัวการทำให้แอร์ทำงานหนักเพื่อปรับอากาศในห้องให้แห้งที่สุด ดังนั้นหลีกเลี่ยงการนำแหล่งความชื้นเข้าห้องแอร์ แต่หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้แนะนำให้ใช้เครื่องลดความชื้นในอากาศเข้าช่วย จะช่วยให้ความชื้นภายในห้องอยู่ในระดับที่เหมาะสมและแอร์ไม่ทำงานหนักเกินไป
8. ตั้งเวลาปิดแอร์อัตโนมัติ
ควรตั้งเวลาให้แอร์หยุดทำงานก่อนเวลาสักประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ซึ่งเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลาที่ความเย็นยังคงกระจายตัวอยู่ภายในห้อง หรือหากใครเป็นคนขี้ร้อนสามารถเปิดพัดลมเบา ๆ เพื่อให้ความเย็นกระจายทั่วถึงแทนการเปิดแอร์ได้
9. เปิดแอร์แค่เวลาที่จำเป็นเท่านั้น
สำหรับเคล็ดลับในการเปิดแอร์ให้ประหยัดที่สุด คือการเปิดใช้งานแอร์เท่าที่จำเป็น หรือใช้งานแบบพอดี ๆ มีขีดจำกัด เพราะหลายคนแม้ไม่ได้รู้สึกร้อนแต่กลับเปิดแอร์ทิ้งไว้เพราะความเคยชิน ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการเปิดแอร์ในบ้านหลายห้องพร้อมกัน ควรบริหารการใช้แอร์ให้ดี ใช้วิธีให้สมาชิกในบ้านอยู่รวมกันในห้องเดียวเพื่อเปิดแอร์เพียงเครื่องเดียว หรือเลือกเปิดแอร์แค่ช่วงเวลาที่ร้อนจัดเท่านั้น เพียงเท่านี้ก็ช่วยประหยัดค่าไฟได้มากแล้ว
เครื่องปรับอากาศแบบเคลื่อนที่ได้
