กระทรวงการคลังกำลังจัดทำแพ็กเก็จโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนรอบใหม่ เพื่อเตรียมเสนอให้รัฐบาลชุดใหม่ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีได้พิจารณา ทั้งนี้ ในแพ็กเก็จบัตรคนจนใหม่จะมีการปรับเกณฑ์การลงทะเบียนผู้ที่มีรายได้น้อยให้รัดกุมมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อป้องกันไม่ให้คนที่มีรายได้สูงเข้ามาสวมสิทธิ์แทนที่คนจน
ทั้งนี้ วิธีการวัดรายได้ผู้มีรายได้น้อยแบบเดิมนั้น กระทรวงการคลังจะใช้วิธีวัดหารายได้บุคคลที่จะต้องมีรายได้หรือทรัพย์สินไม่เกิน 1 แสนบาทถึงจะมีสิทธิ์ในบัตรคนจน แต่ในส่วนวิธีการใหม่จะใช้รายได้ครัวเรือนประจำปีมาเป็นตัวชี้วัดรายได้แทนรายได้ของบุคคลแทน ซึ่งหมายถึง จะวัดรายได้ทั้งครอบครัว คือ พ่อ แม่ ลูก รายได้จะรวมกันและพิจารณาออกบัตรคนจนให้ อย่างไรก็ตาม การลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่คาดว่าจะเปิดลงทะเบียนได้ภายในสิ้นปีนี้ และผู้ที่ได้รับบัตรจะได้รับการช่วยเหลือตั้งแต่ต้นปี 2563 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ยังมีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า จากการปรับหลักเกณฑ์เปิดรับลงทะเบียนรอบใหม่นี้ กระทรวงการคลังคาดหวังว่าจะทำให้มีผู้ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐลดลงไปถึง 1 ใน 3 จากปัจจุบันที่ได้รับสิทธิ 14.5 ล้านคน โดยคาดว่าจะลดเหลือไม่ถึง 10 ล้านคน ทำให้รัฐสามารถนำงบประมาณไปใช้ช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนและมีความจำเป็นจริงๆ ได้ตรงกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า วิธีการปรับเกณฑ์รายได้ใหม่ จะเป็นการป้องกันคนที่มีรายได้สูงอาศัยช่องว่าหลักเกณฑ์มาลงทะเบียน และการวัดรายได้ของครัวเรือนแทนบุคคลจะช่วยให้การช่วยเหลือจากภาครัฐเข้าถึงผู้มีรายได้น้อยจริงๆ ได้มากขึ้น
“ยกตัวอย่างเกณฑ์ใหม่ พ่อแม่แก่แล้วไม่มีรายได้ แต่ลูกร่ำรวยมีบ้านมีที่ดิน เมื่อนำรายได้รวมทั้งหมดมาคำนวณก็จะไม่มีสิทธิ์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งรูปแบบเดิมหากพ่อแม่มาลงทะเบียนก็จะได้รับบัตรเพราะรายได้น้อย หรือไม่มีรายได้ แต่รูปแบบใหม่จะนำรายได้ของลูกมารวมด้วย” แหล่งข่าว กล่าว
มีการคาดการณ์ด้วยว่า วงเงินที่่จะใช้สำหรับบัตรคนจนรอบใหม่ กระทรวงการคลังได้ทำเรื่องของบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 เอาไว้แล้ว และคาดว่าจะใช้เงิน 4 หมื่นล้านบาทเพื่อเติมเข้ากองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม แต่ทั้งนี้ ก็ต้องรอการเปิดสภาพิจารณาพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีกันก่อน
เนื้อหาโดย: badboy31