การกดจุด คือหนึ่งในวิธีการรักษาซึ่งเชื่อว่าถือกำเนิดขึ้นในประเทศจีน และถูกสืบทอดต่อๆ กันมาอย่างยาวนาน จนเริ่มมีความแพร่หลายมากยิ่งขึ้นเหมือนที่เราสามารถสังเกตเห็นได้ในปัจจุบัน
วันนี้เราจึงมาพูดถึงวิธีการกดจุดง่ายๆ ต้องกดตรงไหนยังไง และมันจะดีต่อชีวิตประจำวันของเพื่อนๆ ยังไง เราไปดูกันเลยยย
1.จุดที่เรียกว่า The Three Miles Point
มันจะอยู่ตรงบริเวณด้านล่างของกระดูกหัวเข่าประมาณ 3.8 เซนติเมตร (ตามในภาพ) การกดลงไปบริเวณนี้จะช่วยเรื่องการทำงานของระบบย่อยอาหาร รวมถึงอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และวิงเวียนศีรษะ
วิธีการคือให้เพื่อนๆ นั่งงอขาเอาไว้ กดลงไปตรงจุดนี้ด้วยน้ำหนักที่พอดีมือประมาณ 1 นาที
2.บริเวณตาที่สาม
มันคือบริเวณกึ่งกลางของคิ้วทั้งสองข้าง ตรงจุดนี้จะช่วยเรื่องของอาการปวดหัว ความกดดัน ความเมื่อยล้าเรื้อรัง และความเครียดได้
วิธีการคือกดลงไปเบาๆ ค้างไว้ประมาณ 1 นาที
3.จุดที่เรียกว่า The Pericardium Point
มันคือจุดที่อยู่บริเวณปลายแขน ห่างจากข้อมือขึ้นมาประมาณ 3 นิ้วมือ ตรงกลางระหว่างเส้นเอ็นทั้งสองเส้น มันจะช่วยปลดปล่อยอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน และอาการเมารถ
กดและนวดลงไปด้วยความแรงปานกลางสัก 4-5 วินาที
4.จุดที่เรียกว่า The Tong Zi Liao Point
มันคือบริเวณมุมของหางตาใกล้ๆ กับขมับ นี่คือจุดที่ช่วยเรื่องอาการไมเกรนและลดความเหนื่อยล้าของดวงตาได้เป็นอย่างดี
ถูๆ นวดๆ บริเวณนี้ด้วยปลายนิ้วของคุณจนกว่าจะรู้สึกผ่อนคลาย
5.จุดตรงหลังเท้า
จุดที่ว่านั้นอยู่ตรงบริเวณกึ่งกลางของนิ้วโป้งและนิ้วชี้เท้า สูงขึ้นมาประมาณ 3.8 เซนติเมตร นี่เป็นบริเวณที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับการแก้อาการปวดหัว ความอ่อนล้าของดวงตา อาการปวดเท้า แล้วยังช่วยพัฒนาเรื่องของการมีสมาธิได้ด้วย
กดค้างไว้ที่บริเวณนั้นสัก 1 นาที
6.จุดตรงหน้าอก
เป็นจุดที่หาได้ง่ายมากเพราะมันอยู่กึ่งกลางของหน้าอกเราพอดิบพอดี จุดนี้จะช่วยให้เราใจเย็นลง ปลดปล่อยความกดดัน ความวิตกกังวล ความหวาดกลัว และความรู้สึกด้านลบทั้งหลาย
ค่อยๆ กดและค้างเอาไว้สัก 1 นาที
7.จุดที่มือ
มันคือจุดที่อยู่ตรงระหว่างหัวแม่โป้งและนิ้วชี้ (ตามในภาพ) มีความสามารถในช่วยแก้อาการปวดฟัน เจ็บคอเจ็บไหล่ และปวดหัว
กดค้างไว้หรือไม่อย่างนั้นก็นวดเบาๆ สัก 1 นาที
8.จุดบริเวณฝ่าเท้า
เป็นจุดที่อยู่เกือบจะกึ่งกลางของฝ่าเท้า ตรงระหว่างนิ้วชี้และนิ้วกลาง การกดลงไปจะช่วยเรื่องของปวดหัว วิงเวียนศีรษะ และหน้ามืดคล้ายจะเป็นลมได้ดี
กดลงไปด้วยปลายนิ้วค้างไว้สักก 1 นาที
9.จุดบริเวณท้ายทอย
นี่เป็นจุดที่อยู่บริเวณด้านข้างของลำคอใกล้กับฐานของศีรษะ (ตามในภาพ) ช่วยเรื่องของอาการปวดหัว ไมเกรน และหน้ามืดวิงเวียน
วิธีการคือกดลงไปค้างไว้สัก นาที
10.จุดด้านหลังของศีรษะ
มันอยู่ตรงกลางของช่องกลวงกะโหลกด้านหลังศีรษะ (ตามในภาพ) สามารถแก้อาการปวดหัว เจ็บคอ และเลือดกำเดาไหล
กดลงไปให้พอดีมือด้วยปลายนิ้วค้างไว้สัก 1-2 นาที
11.จุดด้านหลัง
จุดนี้อยู่ตรงแถวๆ รอบเอวของเราด้านหลังลำตัว ห่างออกมาจากกระดูกสันหลังประมาณ 2-4 นิ้วมือทั้งซ้ายและขวา จุดนี้ช่วยเรื่องอาการเจ็บท้อง เจ็บหน้าท้อง และอาหารไม่ย่อย
กดลงไปตรงจุดนี้ทีละข้าง ข้างละหนึ่งนาที
12.จุดบริเวณหลังปลายแขน
อยู่ตรงหลังแขนห่างจากข้อมือประมาณ 7.6 เซนติเมตร นี่เป็นจุดที่ช่วยในเรื่องของท้องอืดได้เป็นอย่างดี
ให้กดตรงจุดนี้กับแขนทีละข้าง ข้างละหนึ่งนาที ซ้ำไปซ้ำมาเรื่อยๆ จนกว่าจะผ่อนคลาย
13.จุดบริเวณข้อเท้า
อยู่ระหว่างตาตุ่มกับเอ็นร้อยหวายด้านหลังของข้อเท้าเรา มันจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บไหล่ เจ็บหลัง เจ็บคอ
กดลงไปในน้ำหนักที่พอดีมือประมาณ 1 นาที
14.จุดตรงข้อศอก
มันจะอยู่บริเวณตรงรอยพับของข้อศอก ใกล้เข้าไปกับข้อศอกของเรา ที่ช่วยบรรเทาอาการไข้หวัด น้ำมูกไหล เจ็บคอ รวมถึงเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้ด้วย
วิธีการคือให้เรางอข้อศอกเข้ามา กดจุดลงไปด้วยนิ้วโป้งและนวดหรือกดค้างเอาไว้ประมาณหนึ่งนาที ก่อนที่จะเปลี่ยนไปทำซ้ำกับแขนอีกข้างหนึ่ง
ทั้งหมดนี้คือวิธีการกดจุดที่เพื่อนๆ สามารถเอาไปทำกันได้ในชีวิตประจำวัน เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิต ให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตกันไปได้อย่างเต็มที่
ขอขอบคุณที่มาจาก : namprix.com