ทำแบบนี้ประจำ “การนอนห้อยหัว” วันละ 10 นาที จะช่วยให้คุณหน้าเด็กลง และอาการปวดไมเกรนจะค่อยๆหายไป

 

การนอนห้อยหัวทำให้เลือดได้มีโอกาสไหลไปตรงศีรษะได้ง่ายขึ้น ซึ่งเมื่อเลือดไหลเวียนดี เนื้อเยื้อสมองเนื้อเยื้อเซลล์ก็ได้รับการบำรุงซ่อมแซมเต็มที่ ระบบต่างๆ ก็ทำงานไหลลื่น ส่งผลให้ความคิดฉับไว เป็นระบบระเบียบ ความจำดีขึ้น

จะมีใครอยากหน้าแก่ มีริ้วรอยเหี่ยวย่นเต็มไปหมด ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากหน้าเด็กตลอดกาลแต่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย หรือใช้ครีมบำรุงผิวหน้าเท่าไหร่ก็ยังไม่ดีขึ้น เรามีวิธีง่ายๆที่ทำเพียงวันละ 10 นาที แต่ได้ผลดีในระยะยาวเป็นหลายสิบปีเลย จะเป็นวิธีอะไร…ตามมาดูกัน

เคล็ดลับที่ว่านี้ ก็คือ “การนอนห้อยหัว” โดยให้ใช้เวลานอนท่านี้สักวันละ 10 นาที เพื่อให้ศีรษะได้มีโอกาสอยู่ต่ำกว่าลำตัวบ้าง เลือดจะได้ไหลลงไปเลี้ยงสมองได้มากขึ้น ไม่ เพียงแต่ประโยชน์ทางด้านสมองที่จะได้รับเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ต่อผิวหน้าของคุณอีกด้วย ประโยชน์มีมากมายครอบคลุมทั้งภายนอกและภายในจริงๆ

ประโยชน์โดยตรงต่อสมอง

เหตุผลที่การนอนห้อยหัวมีผลดีต่อสมองก็เพราะว่า โดยปกติแล้ว เซลล์ต่างๆ ของสมองต้องการเลือดไปหล่อเลี้ยงอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้น การนอนห้อยหัวจึงช่วยเพิ่มเติมส่วนนี้ได้ ทำให้เลือดที่หล่อเลี้ยงร่างกายอยู่แล้วได้มีโอกาสไหลไปตรงศีรษะได้ง่ายขึ้น ซึ่งเมื่อเลือดไหลเวียนดี เนื้อเยื้อสมอง หรือเนื้อเยื้อเซลล์ก็ได้รับการบำรุงซ่อมแซมอย่างเต็มที่ ระบบต่างๆ ก็ทำงานได้อย่างไหลลื่น ส่งผลให้ความคิดฉับไว เป็นระบบระเบียบ ความจำดีขึ้น ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ และแก้ปวดไมเกรน ได้ด้วย

ประโยชน์ด้านอื่นๆ

1. ลดอาการผมหงอก ผมขาว ช่วยให้สีผมกลับมาเป็นสีปกติ การที่เลือดไหลไปเลี้ยงสมองมากขึ้นจะช่วยให้ผมของคุณดูดกดำได้ยาวนานมากขึ้น

2. ช่วยให้มีความคิดในแง่บวก มองโลกในแง่ดีมากขึ้น และหายเครียด เพราะการก้มหัวจะไปช่วยกระตุ้นต่อมหมวกไตที่ผลิตฮอร์โมนสำคัญๆ หลายชนิด และส่งผลต่อความรู้สึก ทำให้มีความคิดในแง่บวกมากขึ้น มองโลกในแง่ดีขึ้น แถมยังลดอาการความเครียดต่างๆ ได้ด้วย

3. ผิวหน้าเปล่งปลั่ง เต่งตึง ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น ระหว่างที่เรานอนห้อยหัวจะทำให้ใบหน้าได้รับเลือดไปหล่อเลี้ยงและมีเลือดฝาด เมื่อเราได้รับออกซิเจน ก็จะช่วยให้ผิวหน้าเปล่งปลั่ง เต่งตึง ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น ยิ่งเพิ่มการนวดคลึงใบหน้าเบาๆ ก็ยิ่งทำให้เลือดไหลเวียนมาเลี้ยงใบหน้าได้ดีมากขึ้น เร่งการสร้างเซลล์ผิวหน้าใหม่ และยังช่วยในเรื่องของการยกหน้าไม่ให้หย่อนคล้อยตามแรงโน้มถ่วงด้วย

4. ป้องกันโรคอัมพาต นอกจากจะเป็นการทำให้ไม่เกิดภาวะสมองขาดเลือดแล้ว การให้เลือดแล่นขึ้นใบหน้าจนแดงก่ำ ยังคล้ายเป็นการบริหารท่อเลือดให้ทำงานอยู่เสมอๆ ป้องกันไม่ให้ท่อเลือดอุดตันจากการไม่ได้ใช้งานนั่นเอง

การห้อยหัวยังมีหลากหลายรูปแบบ ที่นิยมทำและให้ผลคล้ายๆ กัน เช่น การเล่นโยคะท่าศีรษะอาสนะ (Headstand) หรือ การห้อยหัวด้วยเครื่อง Inversion Table ที่นอกจากจะช่วยเรื่องสมองและผิวหน้าแล้ว ยังช่วยเสริมประโยชน์ในเรื่องของกระดูก หมอนรองกระดูก และข้อต่อต่างๆ ให้ทำงานเป็นปกติได้ด้วย นอกจากนี้ยังลดอาการไส้เลื่อน ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น ช่วยให้ไม่เตี้ยลงเมื่ออายุมากขึ้นด้วย

การเล่นโยคะท่าศีรษะอาสนะ (Headstand)

ข้อควรระวัง

ผู้ป่วยที่มีโรคความดันโลหิตสูงหรือความดันโลหิตต่ำและผู้มีอายุมากๆ ควรรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ถ้าระหว่างทำเกิดอาการหน้ามืด ควรหยุดพักทันที ลองเอาไปทำตามกันดูนะคะ น่าจะช่วยให้คุณมีสมองที่ปราดเปรื่อง และใบหน้าที่อ่อนเยาว์ลงได้อย่างไม่ยากเลย

ใส่ความเห็น