“ขงจื๊อ” เคยกล่าวไว้เมื่อ 2,000 ปีก่อนว่า…คนฉลาดและขยัน ควรส่งเสริมให้เป็นแม่ทัพ, คนฉลาดและขี้เกียจ ควรเลี้ยงไว้เป็นทหารฝ่ายเสนาธิการวางแผนอยู่เบื้องหลัง, คนโง่และขี้เกียจเก็บไว้ใช้สอยทำงานตามคำสั่งก็พอไหว, แต่ถ้าเจอคนโง่และขยัน ต้องเอาไปตัดหัวทิ้งทันที เพราะจะทำให้งานเสีย และก่อความเดือดร้อนไม่รู้จบไม่ว่าคุณจะเป็นคนฉลาด หรือคนโง่..การขยันแบบไม่รู้เวล่ำเวลา ขยันทำสิ่งผิดๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็ดีแต่สร้างความเสียหายมากกว่าจะก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ เริ่มตั้งแต่วันนี้ก็ยังไม่สาย เลิกซะวัฒนธรรมการทำงานแบบขยันผิดที่ผิดเวลาเหตุผลดีๆ ที่คนเราไม่ควรขยันแบบผิดๆ คือ
ประการที่ 1 : การขยันทำงานที่เน้นแต่ปริมาณโดยไม่ใช้สมอง ไม่มีทางทำให้ได้งานดีมีคุณภาพ!! ลองเปลี่ยนวิธีทำงานซะใหม่ คิดให้ถี่ถ้วนก่อนลงมือทำและจัดอันดับความสำคัญให้เป็น เชื่อสิครับว่างานจะเสร็จเร็วกว่าเดิมเยอะ แถมยังได้งานดีมีคุณภาพ ไม่ใช่สักแต่ทำไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้จักวางแผนงาน
ประการที่ 2 : การโหมงานโต้รุ่งและนอนดึกตื่นสาย ทำลายความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ เพราะสมองที่เบลอ ไม่มีทางคิดอะไรออก เรื่องนี้คอนเฟิร์มโดย “เอเรียนนา ฮัฟฟิงตัน” คอลัมนิสต์ชื่อดังชาวอเมริกันเชื้อสายกรีก แห่งเว็บไซต์ฮัฟฟิงตัน โพสต์ ที่ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บส์ ให้เป็นหนึ่งในผู้หญิงทรงอิทธิพลที่สุดในวงการสื่อโลก
ประการที่ 3 : การขยันทำงานตอนไฟลนก้นทำให้อารมณ์เสีย และทำลายความสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้าง ลองจัดสรรเวลาทำงานใหม่ โดยเตรียมงานไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วคุณจะไม่ต้องปรี๊ดแตกใส่ใครต่อใครให้เสียบรรยากาศ
ประการที่ 4 : ถ้าคุณเป็นเจ้านายคน ควรเป็นแบบอย่างที่ดีของลูกน้องโดยเฉพาะการบริหารจัดการเวลา คนที่ทำงานเป็นไม่จำเป็นต้องใช้เวลาอยู่ในออฟฟิศจนดึกดื่น เพื่อให้ได้ผลงานน้อยนิด
ประการที่ 5 : การขยันทำงานหามรุ่งหามค่ำ บั่นทอนสุขภาพให้ทรุดโทรม ตัวอย่างสุดช็อกเกิดขึ้นปลายปีที่แล้ว เมื่อสาวน้อยก๊อบปี้ไรเตอร์โฆษณาชาวอินโดนีเซีย “มิต้า ดิแรน” วัย 24 ปี หัวใจวายตายคาโต๊ะ หลังทำงานหนักติดต่อกัน 30 ชั่วโมงโดยไม่ได้หยุดพัก
ประการที่ 6 : หยุดคิดสักนิด แล้วจะรู้ว่างานส่วนใหญ่ที่บ้าทำตอนนี้ แทบไม่มีความสำคัญอะไรเลย มนุษย์เงินเดือนจำนวนมากก้มหน้าก้มตาทำงานซ้ำๆ อยู่ในออฟฟิศวันละหลายชั่วโมง โดยไม่เคยถามตัวเองว่า สิ่งที่เราทำอยู่ทุกวันนี้ มีประโยชน์กับชีวิตมากน้อยแค่ไหน ทำให้เราพัฒนาขึ้นหรือเปล่า และให้อะไรกับสังคมบ้าง?
ประการที่ 7 : ครอบครัวต้องมาก่อน อย่าปล่อยให้งานทำชีวิตพัง ความก้าวหน้าทางการงาน อาจสำคัญสำหรับใครหลายๆ คน แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว เทียบไม่ได้เลยกับการมีครอบครัว อบอุ่นน่ารัก เพราะไม่ว่ายามสุขหรือทุกข์พวกเขาคือคนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างเราจริงๆ
ที่มา : มิสแซฟไฟร์,“เรื่องดีๆมีข้อคิด”