ครั้งหนึ่งสมเด็จพระอมรินทราธิราชเจ้าได้เสด็จออกจากวิมานไปสู่สวนอุทยาน แล้วจึงยกพระหัตถ์ขึ้นนมัสการทิศทั้ง ๑๐ ทิศ ครั้งนี้พระมาตลีเทพบุตรจึงทูลถามว่าพระองค์ทรงนมัสการทิศทั้ง ๑๐ นั้นด้วยเหตุผลอย่างไรเล่า
ครั้งนั้นสมเด็จพระอัมรินทรธิราชจึงตรัสบอกแก่พระมาตลีว่าดูก่อนมาตลี เรานมัสการซึ่งคน ๑๐ จำพวกคือ
๑. คนที่มีศรัทธาทำบุญตักบาตรถวายปัจจัย ๔ แก่ท่านผู้มีศีลมีธรรม
๒. คนที่รัษาความสุจริตทั้ง ๓ คือ กายสุจริต วาจาสุจริต ใจสุจริต
๓. คนที่มีความเคารพแก่มารดา
๔. คนที่มีความเคารพแก่บิดา
๕. คนที่ถึงไตรสรณคมน์คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่เคารพบูชา
๖. คนที่มีการรักษาศีล ๕ ศีล ๘ อยู่เป็นนิจ
๗. คนที่ได้ทำกุศลแล้วอุทิศแผ่ไปให้เทวดาและเปรต
๘. คนที่มีความเคารพแก่อุปัชฌาย์อาจารย์ ผู้เฒ่าผู้แก่ที่มีศีลธรรม
๙. คนที่มีความอนุเคราะห์แก่บุตรภรรยาคณาญาติ ด้วยความเมตตากรุณา
๑๐. หญิงที่มีความเคารพสามีอยู่ทุกทิวาราตรีมิได้ประมาท
คนทั้ง ๑๐ จำพวกนี้มีคุณมาก ทำความสุขความเจริญให้บังเกิดแก่ตนเเละบังเกิดเเก่คนอื่นด้วย เพราะฉะนั้นเราจึงได้มีความเคารพนมัสการแก่บุคคลเหล่านั้น เมื่อพระมาตลีได้ฟังท้าวโกสีย์ตรัสดังนี้ก็มีความเกษมสันต์หรรษาจึงได้ออกวาจาว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นใหญ่กว่าเทพยดาทั้งปวงพระองค์มีความเคารพในบุคคลจำพวกใด ข้าพเจ้าก็มีความเคารพในบุคคลจำพวกนั้น จำเดิมเเต่วันนั้นมา เทพยดาทั้งหลายก็พากันอวยชัยให้พรแก่คนทั้ง ๑๐ จำพวกมาจนตราบเท่าทุกวันนี้…