“ดร เกริก มีมุ่งกิจ” ทำเกษตร อย่างไรให้ได้ วันละ 20,000 บาท หรือ 6 แสนบาท ต่อเดือน
สวัสดีครับ วันนี้เราจะพาไปพบกับ ดร.เกริก มีมุ่งกิจ ปราชญ์เกษตรผู้ร่ำรวยความสุข เราไปดูแนวความคิดของท่านว่าทำอย่างไร จึงจะทำการเกษตร ให้ได้รายได้ที่ยั่งยืน อาจารย์เล่าให้ฟังว่า แรกเริ่ม มาอยู่ที่นี่ สิ่งแรกที่ทำคือปลูกต้นไม้จากนั้นก็เห็นว่า ทางหลวงเอย ชายบ้านเอย เขาตัดแต่งกิ่งต้นไม้กองไว้ข้างถนนมากมาย ก็เลยคิดที่จะเก็บเอามารวมไว้ แล้วก็ ทำเตาเผาถ่านขึ้น เพื่อที่จะกลั่นน้ำส้มควันไม้ ซึ่งในตอนนี้เราจะได้น้ำส้มควันไม้เพื่อมาใช้ในการเกษตร และถ่านเอาไว้เป็นพลังงานทดแทนจากนั้นก็ไปกวาดเศษใบไม้มากองรวมๆกัน เพื่อทำเป็นปุ๋ย จากเศษใบไม้ จากนั้นก็ไปเพาะพันธุ์ไม้จากเมล็ดใส่ในถุงดำ ตกบ่ายๆ ก็เล่นFacebookบ้างเพื่อความบันเทิงวันๆนึงผลผลิตที่ได้มีดังนี้
1.เผาถ่านได้ 5 กระสอบ ตกกระสอบล่ะ 200 บาท
2.น้ำส้มควันไม้ 50 ลิตร ลิตรล่ะ 100 บาท
3.ปุ๋ยเฉลี่ยวันล่ะ 2 ตัน ตันละ 4,500 บาท
4.กล้าพันธุ์ไม้ 400ต้น ต้นล่ะ 20 บาท
5.บางฤดูกาลก็มีข้าว
กิจกรรมยามว่างจากการทำเกษตร
โดยรวมๆกันแล้วก็ประมาณ 20,000ต่อวัน อาจารย์แกบอกว่าแกไม่ต้องเครียด แค่ “คิดกลับกับคนอื่นๆ ที่เขามองหาในสิ่งที่ตัวเองไม่มี แต่เริ่มคิด และทำกับสิ่งที่ตัวเองมี”
จากหลายๆสื่อหลายคนสงสัยว่าทำได้จริงหรือไม่ นี่ คือ สรุปคำถาม และคำ สอนของ ดร ครับ
– ดร เคยออกรายการมากมาย เช่น เจาะใจ ดังนั้นเทปสัมภาษณ์นี้จะไม่ถามคำถามที่เคยถูกถามไปแล้วเลย
– ทำเงินวันละ 20,000 ได้จริง และจะเอามากกว่านั้นก็ได้ถ้าขยันมากพอ แต่ไม่อยากให้เอาเงินเป็นตัวตั้ง เพราะถ้าคุณต้องการเงิน 20,000 บาทต่อวันแล้วทำไม่ได้ อันนี้จะถือว่าผิดหวัง แต่ถ้าเอาแค่พออยู่พอกิน รับรองว่าสมหวังแน่นอน
– เงินจะไม่สำคัญกับชีวิตถ้าคุณมีเงินและรู้จักพอเพียง ทุกวันนี้ ดร อยากไปไหนก็ไปได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงิน เพราะมี ATM พกติดต่อ กดตังค์ที่ไหนก็ได้ แถมยังไปได้ทันทีเพราะไม่มีเวลางานตายตัว
– เกษตรกรเป็นเจ้าของเวลาในชีวิต จะทำงานและนอนหลับตอนไหนเวลาใดก็ได้ ไม่มีใครมาบังคับและต่อว่า อยู่ที่ความพึงพอใจของเราเลย ขยันมากได้มากก็ทำอะไรได้มาก ชีวิตของคนเราจำเป็นจริงๆหรือที่ต้องทำงานให้ทัน 8 โมงเช้าและเลิกงาน 5 โมงเย็น แต่ถ้าไม่มีวินัยก็นอนทั้งวัน
– ไม่มีที่ดินไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่มีวิชาอันนี้ปัญหาใหญ่ ถ้าคุณสำเร็จวิชาเกษตรกรแล้ว อยู่ที่ไหนในไทยก็รอด ที่ดินตามต่างจังหวัดมีค่าเช่าไม่แพง ปีละหลักพันบาท ไร่ละหลักหมื่น แต่ไม่ติดถนน ห่างไกลความเจริญ ถ้าติดถนนนี่แพง แต่ถ้าคุณมีที่เป็นของตัวเองอยู่แล้ว อย่างนี้ง่ายเลย
– ไร่ของ ดร. เป็นที่ทำงาน ไม่ใช่ที่ดูงาน เกษตรกรเป็นอาชีพที่ต้องลงมือทำ ไม่ใช่ยืนดู ถ้าอยากเป็นเกษตรกร สามารถมาลงมือทำได้โดย ดร จะสอนหมดทุกขั้นตอน มีค่าแรงให้วันละ 200 บาท ที่นอนฟรี wifi ฟรี ข้าวสารฟรีแต่ต้องหุงเองสีเอง มีไก่ไข่ฟรี มีบ่อปลา ผักจากธรรมชาติฟรี หรือจะปลูกเองก็ได้ รายได้จากผลผลิตทั้งหมดหารครึ่งโดย ดร จะไม่หักต้นทุน ทุกอย่าง ดร จ่ายให้หมด เคยมีคนเก็บเงิน 1 ปีได้มากกว่า 400,000 บาท ถ้าอยากหยุดเพื่อพักผ่อนก็ทำได้ แต่วันนั้นจะไม่ได้ 200 สามารถเลิกกลางคันได้ แต่ถ้าผลผลิตยังทำไม่เสร็จ ก็จะได้แค่ 200 บาท
– บางคนมาฝึกงานที่นี่ เอาเต๊นท์มานอนเองท่ามกลางธรรมชาติ
– ที่นี่ดื่มน้ำฝนที่ผ่านเครื่องกรอง มีที่ทำน้ำแข็งให้ มีถ่านให้ใช้ปรุงอาหารไม่อั้น
– เวลาเรียนใช้ทั้งหมด 1 เดือนต่อ 1 วิชา มี 5 วิชาให้เรียนคือ 1. เผาถ่าน ทำน้ำส้มควันไหม้ 2. ทำดินจากใบไม้และหญ้า 3. ทำปุ๋ย 4. ปลูกต้นกล้า 5. ทำนา ถ้าเรียนครบหลักสูตรจนผลผลิตเสร็จเรียบร้อย รายได้หารครึ่ง ถ้าทำไม่ครบ ได้แค่ค่าเหนื่อย 200 บาท ตอนที่ผมไปสัมภาษณ์มีคนกำลังเรียนรู้งานจาก ดร ที่ไร่ราวๆ 30 กว่าคนและทุกคนกำลังเรียนรู้วิธีทำนา และเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
– เกษตรกรทุกคนจะต้องรู้จักคุณค่าของเงินทุกบาททุกสตางค์ที่หามาได้
– ต้นไม้ต้นทุน 1-2 บาท ราคาขาย 20 มูลค่าสูงขึ้น 20 เท่า ถ้าขายไม่ออกปีหน้าขาย 30 บาท เพราะมันโตแล้วต้องแพงขึ้น
– ถ้าสนใจอยากเรียนวิชาไหนโดยเฉพาะ สามารถเจาะจงได้ เคยมีคนขอเรียนเผาถ่านอย่างเดียวโดยเฉพาะ
– เกษตรกรก็เหมือนอาชีพอื่น ต้องมีผิดพลาด ล้มเหลวในช่วงแรก จนกว่าจะทำเป็น เช่น หลายคนเผาถ่านเป็นกองแต่ได้กระสอบเดียว แต่การเผาถ่านที่ถูกต้องจริงๆคือใส่กิ่งไม้ 10 กระสอบ ต้องได้ถ่าน 10 กระสอบพอดีเป๊ะ หลายคนโจมตีบอกว่า ดร ทำลายธรรมชาติ ซึ่งในความจริง ดร ใช้กิ่งไม้ที่ตัดจากสวนของตัวเองมาทำ ไม่ได้ตัดต้นมาทำ
– สินค้าหลายๆอย่างของเกษตรกรเป็นสินค้าที่ยังไงก็ขาดตลาดเสมอ
– ชีวิตต้องวางแผน ถ้าคุณเคยแต่วางแผนให้กับบริษัทว่าจะต้องทำอะไร ไม่ต้องทำอะไรแต่ไม่เคยวางแผนชีวิตตัวเองว่าปีนี้ ปีหน้า 5 ปีข้างหน้า 10 ปีข้างหน้า คุณจะต้องเริ่มวางแผนให้ชีวิตตัวเองได้แล้ว
– 10 วันแรกเหนื่อยจนสายตัวแทบขาด เพราะร่างกายยังไม่ชิน จากนั้นร่างกายจะค่อยๆปรับสภาพได้ มีหลายคนท้อแท้ตั้งแต่เริ่มเพราะใจและกายไม่แกร่งพอ
– ดร ไม่ปลูกผลไม้เพราะมันจะมีช่วงต้องขาย เช่น ทุเรียนสุกแล้ว ถ้าไม่ขายก็จะขายไม่ได้ การปลูกผลไม้นั้นค่อนข้างเสียเปรียบพ่อค้าคนกลาง มันยากกว่าการทำเกษตรกรอื่นๆ
– เกษตรไม่จำเป็นต้องการลูกค้าในช่วงแรก แต่ต้องเน้นสร้างผลผลิตให้มากก่อน เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมีผลผลิตเก็บไว้มากพอ วันนั้นคุณจะกลายเป็นคนเนื้อหอมของลูกค้าทันที
– ปลูกพริกไทยเก็บทันก็ได้ตังค์ เก็บไม่ทันตกลงมาก็ได้ตังค์ แถมยังแพงกว่าเดิมด้วย นี่คือความพิเศษของการปลูกต้นไม้
– อาชีพนี้ไม่มีเหงา ประเทศไทยเกษตรกรมีเยอะมาก
– เมื่อคุณเริ่มต้น จะมีคนดูถูกดูแคลนคุณ บอกว่าคุณไม่มีวันทำได้ เพราะบลาๆๆๆๆๆๆๆๆ คุณเจอแน่นอนทุกคน และเสียงเหล่านั้นจะหายไปเมื่อคุณประสบความสำเร็จ
– คนประสบความสำเร็จมองหาแต่สิ่งที่ตัวเองมี คนไม่ประสบความสำเร็จมองหาแต่สิ่งที่ตัวเองขาด
– เป็นเกษตรกรไม่มีวันจน เราคืออาชีพผลิตอาหารให้กับโลก มันเป็นอาชีพที่มีเกิยรติและน่าภูมิใจ
ถ้าเห็นว่าสิ่งที่ผมทำมีประโยชน์ต่อผู้อื่น กรุณาส่งต่อให้กับคนที่อยากลาออกจากงานไปเป็นเกษตรกรด้วยนะครับ ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จครับ
อาจาร์ย ท่านแนะนำว่า เกษตรเมืองไทยรวยได้แค่มองกลับกัน ปลูกหลายอย่างซื้อน้อยอย่างใช้เวลาว่างและทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุดทำเกษตรแบบผสมผสาน เอาความสุขในครอบครัวเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทองเป็นตัวตั้ง
ปัจจุบันธรรมชาติที่ฟื้นฟูดูแล ทำให้ดร.เกริกมีพอกิน มีพอใช้ แถมยังมีเหลือไว้แจกจ่าย และไว้ขาย จนมีรายได้มากกว่าคนทำงานในเมืองหลายๆคนแถมชีวิตสุดชิว ทำงานเหนื่อยก็พักจิบกาแฟ เล่นFacebook งีบบ้างอะไรบ้าง