นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ธ.ก.ส. เตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารพิจารณาในวันที่ 20 ธ.ค. นี้ เรื่องมาตรการของขวัญปีใหม่ปีเริ่มต้นใช้ในปี 2561 ไปจนถึงสิ้นปี ซึ่งมี 3 มาตรการ 9 โครงการ วงเงิน 1 แสนล้านบาท มีระยะเวลาดำเนินโครงการ 3 ปี คาดว่ามีเกษตรกรลูกค้าและประชาชนได้ประโยชน์จากมาตรการนี้ไม่น้อยกว่า 2.2 ล้านคน
ทั้งนี้ มาตรการที่จะเสนอจะครอบคลุม 3 เรื่องใหญ่ได้แก่ การดูแลหนี้สินในระบบ และนอกระบบ การดูแลผู้มีรายได้ให้ฝึกอบรมอาชีพ ยกระดับรายได้ และมาตรการที่ให้กำลังใจ เช่น โครงการชำระดีมีคืน จะเสนอคืนดอกเบี้ยลูกหนี้ที่มีประวัติชำระหนี้ดี 30% หรือคิดเป็นอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง 2-3% เช่น กรณีลูกหนี้มีหนี้ 2.5 แสนบาท เสียดอกเบี้ย 7% เท่ากับต้องเสียดอกเบี้ยปีละ 1.7 หมื่นบาท ถ้าได้ดอกเบี้ยคืน 30% เท่ากับจะได้เงินคืน 5,000 บาท ซึ่งธนาคารจะนำเงินดังกล่าวไปหักเงินต้นเพื่อช่วยลดภาระหนี้อีกทางหนึ่ง คาดว่าโครงการนี้จะมีคนที่ได้ประโยชน์ 2.6 ล้านราย คิดเป็นวงเงินทั้งสิ้นกว่า 4,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่ปล่อยกู้ดอกเบี้ยพิเศษ 0.1% ซึ่งโครงการดังกล่าวจะต้องเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วยเนื่องจากเป็นโครงการที่จะขอดอกเบี้ยชดเชยจากรัฐบาล
รวมทั้งยังมีโครงการสินเชื่อ 1 ตำบล 1 เอสเอ็มอี ซึ่งเป็นโครงการเดิม และโครงการสินเชื่อเพื่อป้องกันการเป็นหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นโครงการใหม่ ซึ่งมาตรการที่จะทำทั้งหมดนี้จะต้องผ่านการพิจารณาจะคณะกรรมการธนาคารก่อน และบางมาตรการต้องเสนอเข้า ครม. คาดว่าเริ่มใช้ทั้งต้นปี 2561 นี้ ตามนโยบายนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่มอบหมายไว้
ที่มา : khaosod.co.th