สรุป ไทม์ไลน์ หญิงไทย ที่เชียงใหม่ติด โ ค วิ ด – 1 9 ตั้งแต่อยู่เมียนม่า แล้วมาเชียงใหม่

        จากกรณีข่าว เกี่ยวกับ  จังหวัดเชียงใหม่ ตรวจเจอผู้ป่วย 1 ราย ยืนยันติดเชื้อโควิด-19 เป็นสาววัย 29 ปี (อ่านข่าวนี้ คลิก ) ซึ่ง ผู้ติดเชื้อรายนี้พักอยู่ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในตำบลฟ้าฮ่าม อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ต่อมามีอาการป่วยและเข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งด้วยอาการจมูกไม่ได้กลิ่นและปวดเมื่อยตามร่างกาย ซึ่ง วันที่ 26 พ.ย.63 ผลการตรวจเชื้อ โควิด-19 ออกมาเป็นบวก

วันนี้ จึงขอสรุป ไทม์ไลน์ ของหญิงรายนี้ ว่าไปไหน มาไหน บ้าง ดังนี้

1- “นางสาวเอ” (นามสมมุติ) หญิงไทยอายุ 29 ปี อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่ไปทำงานที่ประเทศเมียนมาร์ในลักษณะไป ๆ มา ๆ

2- วันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 ขณะอยู่ที่เมียนมาร์ เอเริ่มมีอาการป่วย เป็นไข้ ไอ และท้องเสีย จึงไปหายาลดไข้มากินเอง

3- เนื่องจากในพื้นที่ที่เออยู่มีผู้ป่วยที่เอสงสัยว่าอาจเป็นโควิด เอจึงอยากกลับมาตรวจที่ไทย

4- ตี 5 ของวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 เอเดินทางจากเมียนมาร์ข้ามฝั่งมายังไทย คาดว่าเป็นการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย โดยเข้ามาทาง อ.แม่สาย จ.เชียงราย

5- เมื่อถึงเชียงรายแล้ว เอก็นั่งรถประจำทางกรีนบัสมาที่เชียงใหม่ แล้วนั่งรถแกร็บจากขนส่งไปที่คอนโดของตัวเองในอำเภอเมือง ถึงคอนโดตอนบ่าย 3

6- ดึกคืนนั้นเอกับเพื่อนอีก 2 คน พากันไปเที่ยวบาร์โฮสต์และคาราโอเกะแห่งหนึ่งย่านสันติธรรม ต.ช้างเผือก ระหว่างนั้นมีการสูบบุหรี่มวนเดียวกัน

7- ประมาณตี 2 เอไปต่อที่คอนโดของเพื่อนชายที่มาจากบาร์โฮสต์ และดื่มเหล้ากันต่อ โดยมีเพื่อนอีก 2 คนซึ่งพักอยู่ในคอนโดดังกล่าวมาร่วมวงด้วย

8- เที่ยงวันที่ 25 พฤศจิกายน เพื่อนไปส่งเอกลับคอนโด จากนั้นตอนบ่าย 3 เอนั่งรถแกร็บไปเซ็นทรัลเฟสติวัล เดินดูของและใช้บริการตามจุดต่าง ๆ เช่น กดเอทีเอ็ม กินชาบู ดูหนัง ฯลฯ แล้วนั่งรถแกร็บกลับคอนโดตอน 2 ทุ่มกว่า

9- วันที่ 26 พฤศจิกายน เอซึ่งมีอาการปวดเมื่อยเนื้อตัว ถ่ายเหลว และจมูกไม่ได้กลิ่น นั่งรถแกร็บไปหาหมอที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ผลตรวจพบว่าเธอติดเชื้อโควิด-19

10- เอถูกส่งตัวต่อไปตรวจซ้ำและรักษาตัวที่ รพ.นครพิงค์ ผลตรวจตรงกัน แพทย์ให้การรักษาจนตอนนี้เออาการดีขึ้น ไม่มีไข้ ไม่หอบเหนื่อย จมูกเริ่มได้กลิ่น และไม่พบปอดบวม

 

 

11- สาธารณสุขเชียงใหม่ลงพื้นที่และสอบสวนโรค พบผู้สัมผัสทั้งหมด 326 คน กำลังทยอยพาไปตรวจหาเชื้อ ตอนนี้ทราบผลตรวจแล้ว 17 คน ผลเป็นลบทั้งหมด แต่ทุกคนยังต้องกักตัว

12- บาร์โฮสต์ที่เอไปเที่ยวถูกสั่งปิด 14 วัน เจ้าหน้าที่เข้าไปทำความสะอาดพ่นยาฆ่าเชื้อ เจ้าของร้านและพนักงานรวม 40 คน ได้รับการตรวจหาเชื้อและกักตัว

13- ส่วนเซ็นทรัลเฟสติวัลประกาศปิดห้างตั้งแต่เวลา 16.00 น. ของวันที่ 28 พฤศจิกายน เพื่อทำความสะอาดครั้งใหญ่ และจะเปิดให้บริการตามปกติในวันที่ 29 พฤศจิกายน

14- ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามสถานที่ต่าง ๆ ที่เอไป พบว่าส่วนใหญ่เธอสวมหน้ากากอนามัย มีถอดออกบ้างบางครั้ง เช่น ตอนทานอาหาร ตอนดูหนัง

15- เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากส่งผลกระทบต่อจังหวัดเชียงใหม่เป็นอย่างมาก การท่องเที่ยวและธุรกิจที่กำลังจะฟื้นตัวได้รับผลกระทบ

16- อีกประเด็นที่ร้อนแรงคือ การตั้งคำถามต่อกระบวนการตรวจสอบคนเข้าเมือง เพราะพบว่าตั้งแต่ 24 ตุลาคม – 24 พฤศจิกายน เอเดินทางเข้าออกไปทำงานในเมียนมาร์หลายครั้ง โดยไม่เคยกักตัว

17- และที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากคือพฤติกรรมของเอ ที่รู้ตัวว่าป่วยตั้งแต่ตอนอยู่เมียนมาร์ แต่กลับขาดความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ยอมกักตัว และเดินทางไปในที่สาธารณะต่าง ๆ

18- มีการเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับเอ ทั้งด้วย พ.ร.บ.โรคติดต่อ และกฎหมายอาญากรณีลักลอบเข้าเมือง

—————
ขอบคุณข้อมูลจาก:
สำนักงานสาธารณสุขเชียงใหม่, ศูนย์ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจ จ.เชียงใหม่, มติชน, บีบีซีไทย

ใส่ความเห็น