โรคกรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease) หลายท่านคงมัวแต่วุ่นวายอยู่แต่กับการทำงาน หรือการเรียนมากจนเกินไป จนไม่มีเวลามาดูแลเรื่องอาหารการกินเท่าที่ควร ทำให้การรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา ทำให้เกิดอาการแสบร้อนบริเวณอก และรู้สึกเปรี้ยวขมในปาก หากใครเคยมีอาการเช่นนี้ แสดงว่าคุณอาจกำลังเป็น “โรคกรดไหลย้อน (Gastroesophageal Reflux Disease)” ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากการไหลย้อนของกรดในกระเพาะอาหารกลับไปที่หลอดอาหาร ถึงแม้จะมีคนจำนวนไม่น้อยที่เป็นโรค วันนี้เราจะมาบอกวิธีการปฏิบัติตัว แนวทางการรักษา และเทคนิคต่าง ๆ ที่จะช่วยให้คุณมีอาการดีขึ้น
กรดไหลย้อน
สูตรนี้ได้มาจาก นพ.เปี่ยมโชค ชลิดาพงศ์ (ซึ่งผมฟังต่อๆกันมาจากเพื่อนๆอีกที)
วิธีทำน้ำกะเพรา
1. นำกะเพรา 1 กำ (ทั้งลำต้นและใบ) ประมาณ 1 ขีด มาล้างให้สะอาดด้วยน้ำจุลินทรีย์ EM (แช่ 1 ช.ม.)หรือน้ำยาล้างผักเพื่อล้างยาฆ่าแมลงออก (ปัจจุบันนี้ พ.ศ. 2553 ผมปลูกต้นกะเพราขาวและต้นกะเพราแดงไว้ที่หน้าบ้านด้วยครับ)
2. ใส่น้ำ 2 – 3 ลิตรลงในหม้อ นำกะเพราใส่ลงไปทั้งหมด ทั้งลำต้นและใบ
3. ปิดฝาหม้อ ใช้ไฟปานกลางค่อนข้างอ่อน ต้มประมาณ 15 – 20 นาที พอน้ำเดือดปุ๊บให้ปิดแก๊สทันที ข้อมูลเพิ่มเติมจากประสบการณ์ของผม หากใช้ไฟอ่อนเกินไป ฤทธิ์ยาในกะเพราจะไม่ออกมา ควรกะปริมาณไฟที่ต้ม ให้น้ำเดือดภายใน 15 – 20 นาที
4. ดื่มหลังอาหาร 1 แก้ว 250 ml (อ่านตรง ปล. ต่อ)
5. ถ้าน้ำกะเพราเย็นลง หรือ ดื่มไม่หมด ไม่ต้องอุ่นหรือต้มซ้ำ ให้แช่เย็นไว้ดื่ม เพื่อไว้ดื่มได้หลายๆวัน ข้อมูลเพิ่มเติม สำหรับคนธาตุเย็น อย่างเช่นตัวผมเอง ผมจะไม่ดื่มน้ำกะเพราเย็น แต่จะตั้งน้ำกะเพราทิ้งไว้ให้หายเย็นก่อน แล้วค่อยดื่ม เพราะหลังรับประทานอาหาร ถ้าผมดื่มน้ำเย็นหรือทานของเย็นๆ ผมจะท้องอืดอาหารไม่ย่อยครับ
ปล.
1. ถ้าใช้กะเพราแดงจะได้ผลดีกว่า
2. จำไว้ว่า กะเพราเป็นสมุนไพรธาตุร้อน ถ้าดื่มน้ำกะเพราไปแล้วเกิดอาการร้อนใน ให้ลดปริมาณน้ำกะเพราลง
3. อาการหนักประมาณ 6 – 8 แก้ว และหลังจากวันแรกที่ดื่ม ถ้าอาการทุเลาให้ลดปริมาณน้ำกะเพราลง ดื่มเฉพาะหลังอาหาร มื้อละ 1 – 2 แก้ว แต่ไม่ควรเกิน 4 แก้วต่อวัน
4. ยาสมุนไพรไทย ใช้เวลารักษานานถึงจะหาย ต้องกินเป็นประจำสม่ำเสมอ โดยไม่ต้องทานยาเคมีสังเคราะห์เข้าช่วยเลย