รู้จักการทำงานของแอร์ ต้องปรับแอร์เป็นโหมดไหน ถึงจะประหยัดไฟ และได้แอร์ฉ่ำที่สุด

อากาศช่วงนี้ในไทยเรียกได้ว่าร้อนแสนสาหัส กับอุณหภูมิที่แทบจะทะลุ 40 องศาเซลเซียส จึงทำให้จำเป็นต้องอยู่ในห้องแอร์กันตลอด และเปิดแอร์แบบฉ่ำ ๆ โดยไม่กลัวบิลค่าไฟ

แอร์แต่ละเครื่อง จะแบ่งการทำงานเป็น 4 โหมดหลัก ๆ ดังนี้

1. โหมด Cool ถือเป็นโหมดของแอร์ที่คนใช้งานมากที่สุด เพราะหากตั้งอุณหภูมิไว้ที่เท่าไร เครื่องก็จะปรับอากาศให้อุณหภูมิเท่านั้น ทำให้ความเย็นในห้องค่อย ๆ เย็นลงช้า ๆ เมื่อถึงอุณหภูมิที่ตั้งไว้ แอร์จะตัดการทำงาน ซึ่งแอร์ในโหมดนี้จะรักษาอุณหภูมิในห้องได้คงที่ แต่จะกินไฟสูง หากเปิดไว้ในช่วงที่อากาศร้อนจัด แอร์จะทำงานหนักเพื่อพยายามรักษาอุณหภูมิไว้ตามเดิม ส่วนวิธีการเปิดโหมด Cool ให้ประหยัดไฟนั้น ให้เปิดแอร์ในโหมด Cool ก่อน แล้วเมื่อได้อุณหภูมิที่ต้องการ ให้ปรับไปที่โหมด Auto

2. โหมด Auto โหมดนี้เป็นโหมดที่ใช้งานง่ายที่สุด แอร์จะคำนวณค่าต่าง ๆ เองโดยที่เราไม่ต้องปรับใด ๆ ทั้งเรื่องอุณหภูมิในห้อง พัดลม คนที่อยู่ในห้อง สภาพอากาศภายนอก และปรับให้ได้ความเย็นมากที่สุด โหมดนี้จะไม่กินไฟมาก ไม่ยุ่งยาก กดใช้งานได้เลย แต่หากเปิดโหมดออโต้ตอนที่อยู่ในห้องคนเดียว ก็จะทำให้กินไฟได้เช่นกัน

 

 

3. โหมด Fan หรือโหมดพัดลม คือทำให้แอร์มีหน้าที่คล้ายพัดลม ไม่ว่าอุณหภูมิในห้องจะเท่าไรก็ไม่มีผล เพราะเป็นการเปิดพัดลมให้ลมผ่านออกมาเท่านั้นโดยไม่มีความเย็นและไม่มีการลดอุณหภูมิใด ๆ เหมาะกับการไล่กลิ่นอับชื้น กลิ่นอาหารในห้อง ลดความชื้นที่สะสมในห้อง และลดปัญหาแอร์เย็นช้า ซึ่งโหมดนี้เปิดได้ในช่วงที่อากาศเย็นสบาย แต่ถ้าอากาศร้อนแล้วเปิดโหมดนี้ จะยิ่งกินไฟหนักกว่าเดิม

4. โหมด Dry โหมดนี้จะช่วยลดความชื้นในห้องได้อัตโนมัติ โดยการทำงานจะเป็นการดูดความชื้นในห้องเข้าแอร์และปล่อยออกทางท่อระบายน้ำทิ้ง เมื่อเปิดโหมดนี้จะไม่มีเลขอุณหภูมิใด ๆ เพระแอร์จะไม่ทำความเย็น และมีสัญลักษณ์หยดน้ำขึ้นเท่านั้น แอร์โหมดนี้จะกินไฟต่ำมาก แต่ไม่ทำความเย็นและทำให้ห้องอยู่ในอุณหภูมิปกติเท่านั้น และเราควรเปิดแอร์โหมดนี้สัปดาห์ละครั้ง หรือ 1 เดือน 2 ครั้ง

ใส่ความเห็น